ข้อมูลทั่วไปประเทศรัสเซีย
รัสเซีย มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า สหพันธรัฐรัสเซีย เป็นประเทศในยูเรเชียเหนือ และเป็นประเทศใหญ่ที่สุดในโลก กว่า 10,000,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถอยู่อาศัยของโลกถึงหนึ่งในแปด รัสเซียยังเป็นชาติมีประชากรมากที่สุดอันดับที่ 9 ของโลก โดยมีประชากร 143 ล้านคน รัสเซียปกครองด้วยระบอบสหพันธ์สาธารณรัฐกึ่งประธานาธิบดี ประกอบด้วย 83 เขตการปกครอง ไล่จากตะวันตกเฉียงเหนือถึงตะวันออกเฉียงใต้ รัสเซียมีพรมแดนติดกับนอร์เวย์ ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย และโปแลนด์ (ทั้งสองผ่านมณฑลคาลินินกราด) เบลารุส ยูเครน จอร์เจีย อาเซอร์ไบจาน คาซัคสถาน จีน มองโกเลียและเกาหลีเหนือ นอกจากนี้ยังมีพรมแดนทางทะเลติดกับญี่ปุ่นโดยทะเลโอฮอตสค์ และสหรัฐอเมริกาโดยช่องแคบแบริง อาณาเขตของรัสเซียกินเอเชียเหนือทั้งหมดและ 40% ของยุโรป แผ่ข้ามเก้าเขตเวลาและมีสิ่งแวดล้อมและธรณีสัณฐานหลากหลาย รัสเซียมีปริมาณทรัพยากรแร่ธาตุและพลังงานสำรองใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติอันดับหนึ่งของโลก เช่นเดียวกับผู้ผลิตน้ำมันอันดับหนึ่งทั่วโลก รัสเซียมีป่าไม้สำรองใหญ่ที่สุดในโลกและทะเลสาบในรัสเซียบรรจุน้ำจืดประมาณหนึ่งในสี่ของโลก
รัสเซียมีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับที่ 11 ของโลกโดยจีดีพีมูลค่าตลาด หรือใหญ่ที่สุดอันดับที่ 6 โดยความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ โดยมีงบประมาณทางทหารมากที่สุดอันดับที่ 5 ของโลก ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจธุรกิจจัดอันดับรัสเซียเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับที่ 9 ของโลกใน พ.ศ. 2554 ขึ้นจากอันดับที่ 10 ใน พ.ศ. 2553 รัสเซียเป็นหนึ่งในห้ารัฐอาวุธนิวเคลียร์ที่ได้รับการรับรองและครอบครองคลังแสงอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงใหญ่ที่สุดในโลก รัสเซียเป็นมหาอำนาจและสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สมาชิก จี 20 สภายุโรปและความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก องค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป องค์การการค้าโลก และเป็นสมาชิกผู้นำเครือจักรภพรัฐเอกราช อดีตสมาชิกกลุ่ม 7
ประเทศรัสเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น
- 46 แคว้น (Provinces - oblast)
- 22 สาธารณรัฐ (Republics - respublika )
- 9 ดินแดน (Territories - kraya )
- 4 เขตปกครองตนเอง (Autonomous districts - avtonomnyye okruga)
- 1 แคว้นปกครองตนเอง (Autonomous oblast - avtonomnaya oblast )
- 3 นครสหพันธ์ (Federal cities - federalnyye goroda ) คือ มอสโก เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และเซวัสโตปอล

ภูมิอากาศ
ประเทศรัสเซียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่มาก ทำให้ระดับอุณหภูมิมีความแตกต่างกัน ซึ่งประเทศรัสเซียมีเขตภูมิอากาศที่มีความหลากหลาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ยทั้งปีของรัสเซียฝั่งยุโรป จะต่ำกว่า 0 องศาฯ ทำให้แระเทศรัสเซียมีฤดูหนาวที่ยาวนาน และมีอากาศหนาวจัด พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ถูกปกคลุมด้วยหิมะเป็นเวลานานถึง 6 เดือน
ฤดูกาล
- ฤดูร้อน จะเริ่มประมาณเดือนมิถุนายน – เดือนสิงหาคม โดยจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ15 องศา ในเดือนมิถุนายน สภาพอากาศจะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมจะเป็นช่วงที่อากาศร้อนที่สุดในปี โดยมีอุณหภูมิประมาณ 25-30 องศาซึ่งชาวรัสเซียจะถือว่าร้อนมากเพราะสภาพภูมิอากาศในประเทศรัสเซียจะมีความชื้นน้อยมาก ต้นไม้จะเริ่มเขียวขจีและชาวรัสเซียนิยมที่จะมาอาบแดดกัน และในเดือนสิงหาคม อากาศจะเริ่มลดลงเหลือที่ 15-20 องศา
- ฤดูใบไม้ร่วง จะเริ่มในเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 10 องศา ในเดือนกันยายน น้ำจะกลายเป็นน้ำแข็งและจะมีฝนตกบ้างในบางวัน บ้านเมืองจะสวยงามเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีเป็นสีเหลือง เมื่อต้องกับแสงแดดจะเป็นสีเหลืองทองอร่ามงามตา อุณหภูมิจะลดลงไปเรื่อยๆ จนถึง -5 องศาในเดือนพฤศจิกายนและจะมีหิมะตกบ้าง
- ฤดูหนาว จะเริ่มในเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ โดยมีอุณหภูมิประมาณ -10 องศาในเดือนธันวาคม หิมะจะเริ่มตกหนักในช่วงเดือนกลางเดือนมกราคมถึงเดือนกุมภาพันธ์ ในเดือนกุมภาพันธ์จะมีอากาศหนาวที่สุดแห่งปี อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -15ถึง-30 องศา สภาพบ้านเมืองจะปกปิดไปด้วยหิมะทุกแห่ง การสัญจรไปมาค่อนข้างลำบาก
- ฤดูใบไม้ผลิ จะเริ่มเดือนมีนาคม – เดือนพฤษภาคม โดยมีอุณหภูมิประมาณ 5 องศา ในเดือนมีนาคมน้ำแข็งที่ปกคลุมในตลอดฤดูหนาวจะเริ่มละลายและสภาพภูมิอากาศจะเริ่มอบอุ่นขึ้น แต่ต้องระวัง เนื่องจากสภาพถนนจะเปียกแฉะและสกปรกอาจทำให้เสื้อผ้าเปรอะเปื้อน และในเดือนพฤษภาคมจะมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 15 องศาและเริ่มมีแดดส่องบ้างในบางวัน
ระบบการศึกษา
การศึกษาของรัสเซียมีลักษณะเป็นระบบต่อเนื่อง มีหลายรูปแบบของสถาบันการศึกษาในระดับต่างๆ ระดับการศึกษาในระบบการศึกษาของรัสเซีย แบ่งเป็น
- การศึกษาก่อนโรงเรียนปัจจุบันมีเด็กเข้าเรียนอยู่ประมาณร้อยละ 84 ของจำนวนเด็กทั้งหมดในช่วงวัย 5 – 6 ปี เพิ่มจากร้อยละ 67 ในปี 1999 ในรัสเซีย ระบบการดูแลเด็กค่อนข้างดี ตั้งแต่สมัยโซเวียต เด็กวัย 1 – 3 ปีจะต้องเข้าเรียนในแผนกเด็กเล็ก (เตรียมอนุบาล) และ 3 – 7 ปีจะเข้าเรียนในชั้นอนุบาล นอกจากนี้ ยังมีสถาบันการศึกษาเพื่อเน้นการพัฒนาเฉพาะทางของเด็ก เช่น อนุบาลเพื่อการพัฒนาการด้านสมองและความรู้ทางวิทยาศาสตร์ อนุบาลเพื่อการพัฒนาสุนทรียศาสตร์ อนุบาลเพื่อการพัฒนาทางร่างกาย อนุบาลเพื่อการปรับความผิดปกติด้านร่างกายและจิตวิทยาเด็ก อนุบาลเพื่อการฟื้นฟูสภาพอนามัย เป็นต้น อีกด้วย
- ประถม-มัธยมศึกษาหรือเกรด 1 – 9 และต่อในเกรด 10 – 11 สำหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานในแบบปกติ แต่เดิม การศึกษาขั้นพื้นฐานบังคับเพียงแค่ 9 ปี เท่านั้น การศึกษาแบบนี้แบ่งเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงต้น (เกรด 1 – 4) ช่วงกลาง (เกรด 5 – 9) และช่วงปลาย (เกรด 10 – 11) ในบางพื้นที่ที่จำนวนครูไม่เพียงพอต่อการสอน จะมีการแบ่งนักเรียนเป็นกะเช้าหรือกะเย็น ใน 1 ปีการศึกษาจะแบ่งเป็น 4 เทอม ตั้งแต่ 1 กันยายน ถึงเดือนพฤษภาคม วิชาในแต่ละเทอมจะบังคับและกำหนดตายตัวโดยโรงเรียน จำนวนชั่วโมงในแต่ละปีตั้งแต่ 638 – 893 ชั่วโมง (น้อยกว่าในประเทศไทย) เกณฑ์การผ่านสอบมี 5 ระดับ ตั้งแต่ 5 (ดีเยี่ยม) ถึง 1 (ล้มเหลว - เรียนซ่อม) ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ใช้เกณฑ์เทียบ 100 คะแนน
- ประถม-มัธยมศึกษาพิเศษ / อาชีวศึกษา หรือเกรด 10 และ 11 แบบพิเศษ นักเรียนที่จบจากระดับนี้ จะก้าวไปศึกษาต่อในสถานอุดมศึกษา หรือไม่ก็ออกมาประกอบอาชีพตามสาขาที่เรียนมา สถาบันศึกษาในระดับนี้ มีหลากหลายแบบ เช่น แบบธรรมดา แบบเน้นความรู้เฉพาะทาง (คณิตศาสตร์) แบบ Lyceum (เน้นวิชาด้านเทคนิค วิทยาศาสตร์เฉพาะทาง วรรณคดี หรือวัฒนธรรม จะเริ่มรับเข้าเรียนตั้งแต่ชั้น ม. 4 เป็นต้นไป เท่านั้น) แบบ Gymnasium (เน้นเทคนิค วิชาการเฉพาะทาง วรรณคดี หรือวัฒนธรรมเช่นกัน แต่ต่างตรงที่ จะรับเด็กตั้งแต่ชั้น ป. 5 เป้นต้นไป และจะเน้นเฉพาะวิชาเฉพาะสาขาเท่านั้น เช่น เคมี ฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ฯลฯ) มีสองระดับย่อยในสายอาชีวะแบบนี้ คือ อาชีวะขั้นพื้นฐาน และอาชีวะขั้นสูง หลังจากที่ศึกษาสำเร็จขั้นพื้นฐานแล้ว นักศึกษาจะได้วุฒิที่เรียกว่า L-technician หากเทียบแล้ว จะเท่ากับระดับ ปวช. ของประเทศไทย อาชีวขั้นสูงจะเสริมการศึกษาในเชิงลึกและขยายฐานความสามารถของบุคคลกร โดยผู้ที่เรียนจะต้องเรียนต่ออีก 1 ปี สถาบันการศึกษาสำหรับการศึกษารูปแบบนี้ มี 2 ประเภท คือ
1. Technicum จะสอนหลักสูตรขั้นพื้นฐานของสายอาชีวะ
2. College จะสอนทั้งหลักสูตรขั้นพื้นฐานและขั้นสูง ของสายอาชีวศึกษา
- อุดมศึกษามีลักษณะคล้ายคลึงกับที่ประเทศไทย แต่ในรัสเซีย มีระดับการศึกษาหลังปริญญาตรีอยู่อีก 2 ระดับ คือ
- Candidate of Sciences (Kandidaat Nauk) และ
- Doctor of Sciences (Doktor Nauk)
ผู้ที่มีคุณวุฒิทั้งสองประเภท สามารถมีปริญญาในสาขาที่แตกต่างกันได้ แต่ไม่สามารถทำต่อเนื่องในสาขาที่แตกต่างกันได้ บางครั้งอาจพบผู้ที่มีวุฒิของ Doctor of Sciences และถือวุฒิของ Candidate of Sciences ในสาขาอื่นที่ต่างกันไปได้เช่นกัน ส่วนมากต้องใช้เวลาประมาณ 10 ปี จึงจะสามารถจบวุฒิ Doctor of Sciences
ขอบคุณข้อมูลจาก: Wikipedia, Nexttour, Du Goal, Royal Thai Embassy (Moscow, Russia)